ข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ ป้องกันได้ไหม? ดูแลยังไงให้เข่ายังใช้งานได้นาน

ข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ ป้องกันได้ไหม? ดูแลยังไงให้เข่ายังใช้งานได้นาน

เมื่ออายุมากขึ้น หนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุมากที่สุดคือ โรคข้อเข่าเสื่อม หลายท่านอาจเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของวัยที่ต้องเผชิญและยอมรับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภาวะข้อเข่าเสื่อมสามารถป้องกัน และที่สำคัญคือสามารถชะลอการเสื่อมได้ หากมีการดูแลที่เหมาะสมและต่อเนื่องตั้งแต่เนิ่นๆ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า โรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุเกิดจากอะไร เราสามารถป้องกันได้อย่างไร และมีวิธีดูแลข้อเข่าอย่างไรให้อยู่กับเราและใช้งานได้ดีไปนานที่สุด

    โรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ คืออะไร?

    โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) คือภาวะที่กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับแรงกระแทกและหุ้มผิวข้อบริเวณข้อเข่า ค่อยๆ สึกหรอและบางลงอย่างช้าๆ จนเกิดการเสียดสีกันโดยตรงของผิวข้อกระดูกต้นขาและหน้าแข้ง ทำให้เกิดอาการเจ็บ ปวดเข่า ข้อฝืดตึง และขยับได้ลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่ผ่านการใช้งานข้อเข่ามาเป็นระยะเวลานาน

      อาการที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

      • อาการปวดเข่าเวลาเดิน หรือขณะลุกขึ้นยืนจากท่านั่ง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด
      • ข้อเข่าอาจมีเสียงดังกรอบแกรบ (Crepitus) ขณะเคลื่อนไหว
      • มีอาการเข่าบวม หรือรู้สึกตึงๆ บริเวณข้อเข่าตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหลังจากการใช้งาน
      • ในระยะที่เป็นมากขึ้น อาจมีลักษณะขาโก่งหรือผิดรูป ซึ่งส่งผลต่อการเดิน
      • รู้สึกไม่มั่นคงขณะลงน้ำหนัก รู้สึกเหมือนเข่าจะทรุดหรือไม่มีแรง

      ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นในผู้สูงอายุ

      แม้ว่าอายุจะเป็นปัจจัยหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อความรุนแรงและความรวดเร็วในการเสื่อมของข้อเข่า ซึ่งเราสามารถจัดการได้

      1. น้ำหนักตัวที่มากเกินไป น้ำหนักตัวคือปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ทุกๆ 1 กิโลกรัมของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มแรงกดที่กระทำต่อข้อเข่ามากขึ้นถึง 3-5 เท่าในขณะเดิน และอาจมากขึ้นไปอีกในขณะเดินขึ้นลงบันได
      2. การใช้ข้อเข่าอย่างหนักหรือในท่าทางที่ไม่เหมาะสมซ้ำๆ การนั่งพับเพียบ การนั่งขัดสมาธิ การคุกเข่า หรือการนั่งยองๆ เป็นประจำ ล้วนเป็นท่าทางที่สร้างแรงกดเฉพาะจุดต่อผิวข้อกระดูกอ่อนอย่างมหาศาล และเร่งให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น
      3. ภาวะกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอ่อนแรง กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps) มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการช่วยพยุงและดูดซับแรงกระแทกที่ข้อเข่า หากกล้ามเนื้อกลุ่มนี้อ่อนแรง จะทำให้ข้อเข่าต้องรับภาระหนักขึ้นโดยตรง
      4. ประวัติการเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่ข้อเข่าในอดีต การบาดเจ็บในอดีต เช่น เอ็นฉีกขาด หมอนรองกระดูกเข่าแตก หรือกระดูกหัก แม้จะหายดีแล้ว แต่หากไม่มีการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและความมั่นคงของข้อที่ดีพอ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเสื่อมของข้อเข่าก่อนวัยอันควรได้
      5. ปัจจัยทางกรรมพันธุ์และเพศ ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังหมดประจำเดือน เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงนั้นมีผลต่อความหนาแน่นของมวลกระดูกและความแข็งแรงของข้อต่อ

      ข้อเข่าเสื่อม ป้องกันและชะลอการเสื่อมได้จริงหรือ?

      ข้อเข่าเสื่อม ป้องกันและชะลอการเสื่อมได้จริงหรือ? คำตอบคือ เราสามารถป้องกันและชะลอการเสื่อมได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเริ่มต้นดูแลตนเองตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่อาการจะรุนแรง ด้วยแนวทางปฏิบัติต่อไปนี้ะความแข็งแรงของข้อต่อ

      • การควบคุมน้ำหนัก การลดน้ำหนักแม้เพียง 5-10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้น จะช่วยลดแรงกดที่กระทำต่อข้อเข่าและสามารถช่วยลดอาการปวดได้อย่างมีนัยสำคัญ
      • การหลีกเลี่ยงท่าทางที่เพิ่มแรงกดต่อข้อเข่า พยายามหลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ นั่งยองๆ หรือการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น หากต้องขึ้นลงบันได ควรใช้ราวจับช่วยพยุง
      • การบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง และกล้ามเนื้อรอบสะโพก จะช่วยกระจายแรงและลดแรงกดที่กระทำต่อข้อเข่าโดยตรง ตัวอย่างการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น
        • ท่ายกขาเหยียดตรง (Straight Leg Raise)
        • ท่าย่อตัวเล็กน้อย (Mini Squat) อย่างถูกวิธี
        • การเดินในน้ำ หรือการปั่นจักรยานเบาๆ
      • การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นรองรับแรงกระแทกได้ดี มีความมั่นคง และงดการใส่รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่ไม่มีพื้นหนา
      • การพบผู้เชี่ยวชาญเมื่อเริ่มมีอาการ อาการปวดเข่าที่เป็นๆ หายๆ ไม่ควรมองข้าม หากเริ่มมีอาการเริ่มต้นควรรีบเข้ารับการตรวจประเมินและรับคำแนะนำจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด

      ประโยชน์ของกายภาพบำบัดสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นข้อเข่าเสื่อม

      กายภาพบำบัดกับการดูแลโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ การทำกายภาพบำบัดไม่ได้เป็นเพียงการลดอาการปวดเท่านั้น แต่เป็นการวางแผนฟื้นฟูอย่างเป็นระบบเพื่อลดอาการปวด ป้องกันไม่ให้ข้อเสื่อมลุกลามมากขึ้น และช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง

      ประโยชน์ของกายภาพบำบัดสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นข้อเข่าเสื่อม เช่น

      • ช่วยลดอาการปวดและบวมของข้อเข่าด้วยเทคนิคการรักษาด้วยมือและเครื่องมือทางกายภาพบำบัด
      • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อที่ติดขัด
      • ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอย่างถูกวิธีและปลอดภัย
      • ช่วยฝึกการทรงตัวและการเดิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการหกล้ม
      • ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและให้คำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ช่วยเดินอย่างเหมาะสม เช่น ไม้เท้า หรือ Walker

      การทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น มีความมั่นใจในการเคลื่อนไหว และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าในอนาคตได้

      เมื่อไหร่ควรพาผู้สูงอายุไปพบผู้เชี่ยวชาญ?

      • เมื่อเริ่มมีปัญหาในการเดินขึ้นลงบันได หรือมีเสียงในเข่าร่วมกับอาการปวด
      • มีอาการปวดมากหลังจากการเดินหรือการออกแรงทำกิจกรรมต่างๆ
      • เริ่มสังเกตเห็นว่ามีลักษณะขาโก่ง หรือรู้สึกเหมือนขาสั้นยาวไม่เท่ากัน
      • รู้สึกไม่มั่นคงเวลายืนหรือลุกจากเก้าอี้ กลัวว่าเข่าจะทรุดลงไป

      หากผู้สูงอายุในบ้านของคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจประเมินก่อนที่ข้อเข่าจะเสื่อมมากขึ้นและกลายเป็นภาวะเรื้อรังที่รักษาได้ยาก

      แม้ว่าโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุจะเป็นภาวะที่พบได้บ่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องยอมจำนนและทนอยู่กับความเจ็บปวด การดูแลข้อเข่าอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ข้อเข่าสามารถทำงานได้ดีไปอีกนาน ลดความเสี่ยงในการต้องเข้ารับการผ่าตัด และที่สำคัญคือช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

      ที่ Zenista Clinic คลินิกกายภาพบำบัด เรามีบริการฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมด้วยเทคนิคกายภาพบำบัดเฉพาะทาง พร้อมทั้งการออกแบบแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุแต่ละราย และมีเทคโนโลยีที่ช่วยฟื้นฟูอาการข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด ท่านสามารถเข้ารับบริการได้ที่ Zenista Clinic ซึ่งเราพร้อมให้บริการทั้งที่คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมชลบุรี และคลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมเพชรบุรี ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @zenista เริ่มต้นการดูแลสุขภาพข้อเข่าของคุณและคนที่คุณรักให้ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

      บริการแนะนำ

      กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

      กายภาพบำบัด

      คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

      รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

      รักษาข้อเข่าเสื่อม

      คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

      รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

      รักษาออฟฟิศซินโดรม

      รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง