ปวดหลังเวลาไอหรือจาม กลไกทางการแพทย์และภาวะที่ควรระวัง

ปวดหลังเวลาไอหรือจาม กลไกทางการแพทย์และภาวะที่ควรระวัง

เคยไหมครับ? เวลาจามแรงๆ หรือไอแค่ไม่กี่ครั้ง แล้วรู้สึก “จี๊ด” หรือ “แปล๊บๆ” ขึ้นมาที่กลางหลังหรือเอว

อาการแบบนี้หลายคนมักมองข้าม โดยคิดว่าเป็นแค่กล้ามเนื้อเกร็งตัวตามแรงกระแทกจากการจาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการปวดหลังขณะไอหรือจามอาจเป็น “สัญญาณเตือน” ของแรงดันภายในร่างกายที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสำคัญของกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูก หรือเส้นประสาท

เพื่อให้เข้าใจชัดเจนขึ้น บทความนี้จะพาไปดูว่าทำไมการไอหรือจามถึงทำให้ปวดหลังได้ และ ปวดหลังแบบไหนถึงอันตรายจนควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

    ทำไมเวลาไอหรือจามถึงปวดหลัง

    การไอหรือจามเป็นกระบวนการที่ร่างกายเพิ่ม “แรงดันในช่องท้องและช่องอก (Intra-abdominal pressure)” อย่างรวดเร็วเพื่อขับลมหรือสิ่งแปลกปลอมออกจากระบบทางเดินหายใจ แรงดันมหาศาลนี้จะถูกส่งผ่านไปยังกระดูกสันหลังโดยตรง โดยเฉพาะบริเวณหลังส่วนล่าง (Lumbar spine) ซึ่งทำให้เกิดกลไกดังนี้ 

    1. กล้ามเนื้อหลังหดเกร็งอัตโนมัติ
      เพื่อพยุงกระดูกสันหลังไม่ให้เคลื่อนไหวเกินขอบเขตขณะเกิดแรงดัน หากกล้ามเนื้อมีความอ่อนแรงหรือตึงตัวมากเกินไปอยู่แล้ว จะเกิดการเกร็งตัวอย่างเฉียบพลันจนรู้สึกปวดแปลบขึ้นมา
    2. แรงอัดเพิ่มขึ้นที่หมอนรองกระดูกสันหลัง (Intervertebral disc)
      หมอนรองกระดูกทำหน้าที่เป็น “โช้กอัพ” คั่นระหว่างข้อกระดูกสันหลัง เมื่อแรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นสูง เช่น ตอนไอหรือจาม แรงนี้จะอัดให้หมอนรองกระดูกโป่งพองออกไปทางด้านหลังชั่วคราว ถ้าหมอนรองกระดูกมีการเสื่อมหรือบาดเจ็บอยู่เดิม อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดร้าวหรือเจ็บจี๊ดตรงกลางหลังได้
    3. การกระตุกของเส้นประสาท (Nerve tension)
      หากมีภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาทอยู่ก่อนแล้ว (เช่น ระดับ L4-L5 หรือ L5-S1) การไอหรือจามจะทำให้เส้นประสาทถูกดึงรั้งเพิ่มขึ้นชั่วขณะ ส่งผลให้เกิดอาการ “ปวดร้าวลงขา” หรือรู้สึกเหมือนไฟช็อตขณะไอ

    สาเหตุที่พบบ่อยจากอาการ “ปวดหลังเวลาไอหรือจาม”

    1. กล้ามเนื้อหรือเอ็นหลังอักเสบ (Muscle Strain / Ligament Sprain)

    พบได้บ่อยในคนที่ยกของหนัก นั่งหลังงอ หรือเกร็งหลังทำงานนานๆ เวลาจาม แรงดันที่เพิ่มขึ้นจะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อที่อักเสบอยู่แล้วให้เจ็บมากขึ้น

    • ลักษณะเด่น ปวดจี๊ดเฉียบพลันเฉพาะจุด ไม่ร้าวลงขา อาการมักดีขึ้นเมื่อขยับตัวช้าๆ หรือนอนพัก

      2. หมอนรองกระดูกเคลื่อน (Herniated Disc)

      เป็นภาวะที่ “หมอนรองกระดูกโป่งออก” ไปกดทับเส้นประสาท เมื่อมีแรงดันจากการไอหรือจาม หมอนรองกระดูกจะถูกอัดและปลิ้นออกไปกดเส้นประสาทมากขึ้น ทำให้ปวดหรือร้าวทันที

      • ลักษณะเด่น มีอาการปวดหลังร่วมกับปวดร้าวลงขา ชา หรือรู้สึกยิบๆ ที่ปลายเท้า หากไอหรือจามแล้วปวดมากขึ้นชัดเจน ถือเป็นสัญญาณที่ต้องระวัง เพราะหากปล่อยไว้นานโดยไม่ฟื้นฟู อาจทำให้เส้นประสาทอักเสบและกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงได้

      3. ภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม (Degenerative Disc Disease)

      มักพบในผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ใช้หลังหนักเป็นประจำ หมอนรองกระดูกจะเริ่มสูญเสียน้ำและความยืดหยุ่น แรงอัดจากการจามจึงทำให้เกิด “แรงเสียดสีระหว่างข้อกระดูก” จนรู้สึกปวดลึกๆ กลางหลัง

      4. ภาวะอื่นที่ต้องระวัง

      แม้ส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่บางภาวะก็ไม่ควรละเลย เช่น

      • การติดเชื้อในกระดูกสันหลัง อาจมีอาการปวดหลังร่วมกับมีไข้ หรือน้ำหนักลด
      • นิ่วในไต หรือกรวยไตอักเสบ มักมีอาการปวดหลังร้าวไปที่เอวข้างเดียวร่วมกับความผิดปกติของการปัสสาวะ
      • กระดูกสันหลังหักจากโรคกระดูกพรุน พบได้ในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะหลังจามหรือไอแรงๆ แล้วเกิดอาการปวดเฉียบพลันรุนแรง

       ปวดหลังแบบไหนถึงอันตราย? เมื่อไหร่ควรพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด

      หากคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบเข้ารับการตรวจประเมินทันที

      • มีอาการปวดร้าวลงขา ชา หรือกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง
      • อาการปวดรุนแรงขึ้นทุกครั้งเวลาไอ จาม หรือเบ่งถ่าย
      • มีไข้สูง เหงื่อออกกลางคืน หรือเบื่ออาหารร่วมด้วย
      • มีปัญหาการขับถ่าย เช่น ปัสสาวะไม่ออก หรือควบคุมอุจจาระไม่ได้
      • อาการปวดไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ แม้จะดูแลตัวเองแล้ว

      อาการเหล่านี้จัดเป็น “สัญญาณอันตราย (Red Flags)” ที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การทำ MRI หรือ X-ray เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน

      แนวทางกายภาพบำบัดสำหรับผู้ที่ปวดหลังเวลาไอ

      นักกายภาพบำบัดจะเริ่มจากการประเมินโครงสร้างร่างกายเพื่อหาว่าอาการปวดเกิดจากสาเหตุใด จากนั้นจะเลือกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสม เช่น

      • Manual Therapy / Mobilization เพื่อคลายข้อต่อและกล้ามเนื้อที่ตึงเกร็ง ลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง
      • Core Stabilization Exercise การเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เพื่อให้สามารถรองรับแรงดันในช่องท้องขณะไอหรือจามได้ดีขึ้น
      • Breathing Control Training ฝึกการหายใจด้วยกระบังลมอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยลดแรงดันในช่องอกและช่องท้องขณะไอ
      • การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น Shockwave หรือ PMS (Peripheral Magnetic Stimulation) เพื่อลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

       นอกจากนี้ ยังมีการสอน ท่าทางการไอหรือจามที่ถูกต้อง เพื่อลดการบาดเจ็บ เช่น

      • ให้ก้มตัวเล็กน้อย หรืองอเข่าลงขณะไอ เพื่อลดแรงตึงในเส้นประสาทและลดแรงดันที่กระดูกสันหลัง
      • หลีกเลี่ยงการยืดหลังตรงหรือแอ่นหลังขณะจาม เพราะจะเพิ่มแรงอัดต่อหมอนรองกระดูก

      วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อปวดหลังจากการไอหรือจาม

      • พักการใช้งานหลัง ในช่วง 1–2 วันแรก หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือบิดตัวเร็วๆ
      • ประคบร้อน บริเวณที่ปวดประมาณ 15–20 นาที หากเป็นอาการตึงเรื้อรังหรือปวดจากกล้ามเนื้อ
      • ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ เช่น ท่ายืดหลังแมว-อูฐ (Cat-Cow Stretch) หรือท่าเด็กหมอบ (Child’s Pose) เพื่อคลายความตึง
      • ปรับท่านอน แนะนำให้นอนตะแคงโดยงอเข่าเล็กน้อย และมีหมอนรองระหว่างขา เพื่อลดแรงดันภายในหมอนรองกระดูก

      การปวดหลังเวลาไอหรือจามไม่ควรละเลย เพราะเป็นช่วงจังหวะที่แรงดันในช่องท้องส่งผลต่อหมอนรองกระดูกโดยตรง ส่วนใหญ่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัวหรืออักเสบเล็กน้อย แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อนที่ซ่อนอยู่ การเริ่มประเมินและทำกายภาพบำบัดตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะเรื้อรังและป้องกันการกดทับเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      หากคุณมีอาการปวดหลังจากการไอ จาม หรือสงสัยว่าอาจมีปัญหาหมอนรองกระดูก ที่ Zenista Clinic คลินิกกายภาพบำบัด เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมดูแลคุณ

      เราพร้อมประเมินและวางแผนการฟื้นฟูด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น PMS และ Shockwave พร้อมโปรแกรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางเฉพาะบุคคล ท่านสามารถเข้ารับบริการได้ที่ Zenista Clinic ซึ่งเราพร้อมให้บริการทั้งที่คลินิกกายภาพบำบัดชลบุรี และคลินิกกายภาพบำบัดเพชรบุรี

      ปรึกษาและจองคิวได้ที่ Line ID: @zenista

      เพราะ “การจามเพียงครั้งเดียว” อาจบอกถึงความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในหลังของคุณ อย่ารอให้ปวดจนเรื้อรัง ดูแลวันนี้เพื่อกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

      บริการแนะนำ

      กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

      กายภาพบำบัด

      คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

      รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

      รักษาข้อเข่าเสื่อม

      คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

      รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

      รักษาออฟฟิศซินโดรม

      รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง