
“ED Shockwave” หรือการรักษาด้วยคลื่นช็อกเวฟเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในหมู่ผู้ชายที่ต้องการทางเลือกใหม่แทนการใช้ยา เพราะเป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และที่สำคัญคือมุ่งเน้นการแก้ปัญหาจาก “ต้นเหตุ” ของภาวะเสื่อมสมรรถภาพ
คำถามสำคัญคือ คลื่นกระแทกพลังงานนี้ทำงานอย่างไร และทำไมถึงช่วยให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศกลับมาดีขึ้นได้?
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกลไกของ ED Shockwave ในมุมมองของวิทยาศาสตร์และกายภาพบำบัด ที่มีความปลอดภัยและมีงานวิจัยรองรับ
ED Shockwave คืออะไร
ED Shockwave หรือชื่อเต็มในทางการแพทย์คือ Low-Intensity Extracorporeal Shockwave Therapy (Li-ESWT)
คือเทคโนโลยีที่ใช้ “คลื่นกระแทกที่มีพลังงานต่ำ” (Low-energy Acoustic Waves) ส่งผ่านพลังงานจากภายนอกเข้าสู่เนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูตามธรรมชาติของหลอดเลือดและเซลล์ภายในโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ
ซึ่งจะแตกต่างจาก “Shockwave ที่ใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ” ที่จะใช้ระดับพลังงานที่สูงกว่า แต่ ED Shockwave จะใช้พลังงานที่ต่ำกว่ามาก เพื่อให้เกิดความนุ่มนวล ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ และมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเป็นหลัก
กลไกการทำงานของ ED Shockwave
คลื่นกระแทกพลังงานต่ำที่ส่งเข้าสู่เนื้อเยื่อจะทำให้เกิด “แรงกระแทกเชิงกลในระดับจุลภาค (Micro-mechanical Stress)” ซึ่งจะไปกระตุ้นระบบการฟื้นฟูตามธรรมชาติของร่างกายให้ทำงานดีขึ้นใน 3 กลไกหลักดังนี้
- กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Neovascularization)
คลื่นช็อกเวฟจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารที่เรียกว่า ปัจจัยการเจริญของหลอดเลือด (VEGF – Vascular Endothelial Growth Factor) ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดฝอยใหม่ๆ ขึ้นมา และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อองคชาตได้มากขึ้น ยิ่งระบบหลอดเลือดดี การแข็งตัวก็จะยิ่งตอบสนองได้ดีและยาวนานขึ้น - ฟื้นฟูการทำงานของเซลล์บุผนังหลอดเลือด (Endothelial Repair)
ในผู้ที่มีภาวะ ED โดยเฉพาะจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หรือไขมันสูง เซลล์บุผนังหลอดเลือดมักจะทำงานผิดปกติและเสื่อมสภาพ คลื่น Shockwave จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์บุผนังหลอดเลือดเหล่านี้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น และสามารถผลิต “ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide)” ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้เลือดสามารถไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อได้มากกว่าเดิม - กระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Activation)
มีงานวิจัยบางฉบับที่พบว่าการทำ Li-ESWT สามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต้นกำเนิด (Mesenchymal Stem Cells) ที่มีอยู่ในบริเวณที่ทำการรักษา ให้เข้ามามีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและหลอดเลือดที่เสื่อมสภาพ และอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดให้กลับมาทำงานได้ใกล้เคียงปกติมากขึ้น
ทำไม ED Shockwave ถึงแตกต่างจากการใช้ยา
ยากลุ่ม PDE5 inhibitors (เช่น Sildenafil, Tadalafil) จะทำงานโดยการ “ขยายหลอดเลือดชั่วคราว” เพื่อให้เลือดสามารถเข้าสู่อวัยวะเพศได้ดีขึ้นเฉพาะในเวลาที่ต้องการใช้งานเท่านั้น
แต่ ED Shockwave จะมุ่งเน้นการฟื้นฟูโครงสร้างของหลอดเลือดจากต้นเหตุจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นชั่วคราว
พูดง่ายๆ คือ
- ยา = กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี “เป็นครั้งต่อครั้ง”
- Shockwave = ฟื้นฟูให้หลอดเลือด “ทำงานได้ดีขึ้นเอง” ตามธรรมชาติ
ดังนั้น ผลลัพธ์ของ ED Shockwave จะค่อยๆ ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และอาจคงอยู่ได้นานหลายเดือนหลังจากจบโปรแกรมการรักษา
หลักฐานจากงานวิจัยที่น่าสนใจ
งานวิจัยของ Bechara et al. ในปี 2016 พบว่าผู้ป่วยที่ทำการรักษาด้วย Li-ESWT จำนวน 12 ครั้ง มีคะแนนการประเมินการแข็งตัว (IIEF score) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และผู้เข้าร่วมการทดลองมากกว่า 70% รายงานว่าการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ งานวิจัยทบทวนวรรณกรรมในวารสาร The Journal of Sexual Medicine (ปี 2021) ได้สรุปไว้ว่า Li-ESWT เป็นหนึ่งในวิธีรักษาที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีในกลุ่มผู้ป่วย Vasculogenic ED (ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่มีสาเหตุจากหลอดเลือดเสื่อม)
รวมถึงแนวทางเวชปฏิบัติของสมาคมระบบทางเดินปัสสาวะแห่งยุโรป (EAU 2024) ก็ได้ยืนยันว่า Li-ESWT เป็น “ทางเลือกที่เหมาะสม” สำหรับผู้ป่วยที่ตอบสนองต่อการใช้ยาได้ไม่ดี
ปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงหรือไม่
โดยทั่วไป ED Shockwave ถือว่ามีความปลอดภัยสูงมาก เมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ (แต่พบได้น้อยและไม่รุนแรง) ได้แก่
- ผิวหนังบริเวณที่ทำมีรอยแดงเล็กน้อย
- รู้สึกตึงๆ หรือระบมเล็กน้อยในบริเวณที่ทำ
- ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปเองภายใน 1–2 วัน และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
การรักษานี้ไม่พบผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจ ความดันโลหิต หรือระดับฮอร์โมน และสามารถใช้ร่วมกับการรับประทานยากลุ่ม PDE5 ได้หากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดพิจารณาแล้วว่าเหมาะสม
เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีภาวะ ED ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาหลอดเลือดเสื่อม (Vasculogenic ED)
- ผู้ที่เริ่มตอบสนองต่อยาที่ใช้กระตุ้นการแข็งตัวได้น้อยลง
- ผู้ที่ต้องการลดการพึ่งพายา หรือไม่ต้องการใช้ยาในระยะยาว
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ที่ส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศจากต้นเหตุโดยไม่ต้องผ่าตัด
ใครบ้างที่ต้องหลีกเลี่ยง
แม้โดยทั่วไปจะปลอดภัยมาก แต่ในกรณีต่อไปนี้ควรให้แพทย์หรือนักกายภาพบำบัดประเมินก่อนทำ
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อในบริเวณอวัยวะเพศ
- ผู้ที่มีประวัติภาวะมะเร็งในบริเวณอุ้งเชิงกราน
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายที่ยังควบคุมไม่ได้
- ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดในบริเวณนั้นมาในระยะ 4–6 สัปดาห์
ความรู้สึกขณะทำเป็นอย่างไร
ในระหว่างทำการรักษา ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึก “ตึงๆ หรือสะท้านเบาๆ” แต่ไม่เจ็บปวดรุนแรง และไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาหรือดมยาสลบ
แต่ละครั้งจะใช้เวลาในการทำประมาณ 15–20 นาที และสามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
โปรแกรมการรักษามาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 6–12 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนมักจะเริ่มเห็นในช่วง 4–6 ครั้งแรก และจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใน 1–3 เดือน
เปรียบเทียบกับการใช้ยา
| วิธีรักษา | กลไกหลัก | จุดเด่น | ข้อจำกัด |
|---|---|---|---|
| ยา PDE5i (เช่น Viagra, Cialis) | ขยายหลอดเลือดชั่วคราว | ออกฤทธิ์เร็ว | ต้องใช้ต่อเนื่อง อาจมีผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจ |
| ED Shockwave (Li-ESWT) | กระตุ้นการซ่อมแซมหลอดเลือดจากต้นเหตุ | ไม่ต้องใช้ยา ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น | ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผลเต็มที่ |
ED Shockwave เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่ดี และมีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ส่วนใหญ่เป็นเพียงอาการระบมเล็กน้อยและมักจะหายไปเองใน 1–2 วัน
จุดสำคัญคือควรทำในคลินิกกายภาพบำบัดหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง เพื่อให้สามารถปรับโปรโตคอลการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างปลอดภัย
ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศอย่างปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี ED Shockwave
ที่ Zenista Clinic คลินิกกายภาพบำบัด เรามีทีมนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและระบบกล้ามเนื้อและหลอดเลือด พร้อมให้การตรวจประเมินภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและ