ED Shockwave เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาหรือไม่ มุมมองจากหลักฐานทางการแพทย์

ED Shockwave เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาหรือไม่ มุมมองจากหลักฐานทางการแพทย์

สำหรับคุณผู้ชายที่มีปัญหาการแข็งตัว (Erectile Dysfunction: ED) แนวทางแรกที่แพทย์มักแนะนำคือการใช้ยาในกลุ่ม PDE5 inhibitors เช่น Sildenafil หรือ Tadalafil ซึ่งโดยทั่วไปให้ผลดีในผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่พบว่า “กินยาแล้วผลไม่ชัดเจน” หรือประสิทธิภาพของยาเริ่มลดลงเมื่อใช้ต่อเนื่อง ซึ่งทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า PDE5i Non-responders

นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเริ่มมองหาการรักษาทางเลือกใหม่ๆ เช่น ED Shockwave หรือ Low-intensity Extracorporeal Shockwave Therapy (Li-ESWT) คำถามสำคัญคือ วิธีนี้จะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาได้จริงหรือไม่ บทความนี้จะสรุปความเข้าใจให้กระชับและชัดเจน โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางการแพทย์ล่าสุด

    ทำไมบางคน “กินยาแล้วไม่แข็ง”?

    ยากลุ่ม PDE5i จะทำงานได้ดีในกลุ่มที่ปัญหาหลักมาจากการขยายตัวของหลอดเลือดไม่เพียงพอ แต่ยังมีเงื่อนไขและปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้ยาไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ เช่น

    • ความผิดปกติของหลอดเลือดรุนแรง หากผนังหลอดเลือดในองคชาตมีการแข็งตัวมากหรือเสื่อมสภาพกว่าปกติ ยาอาจไม่สามารถกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัวได้ดีพอ
    • โรคร่วมทางอายุรกรรม เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง โรคเหล่านี้ทำให้เส้นเลือดส่วนปลายเสื่อมสภาพเร็ว ส่งผลให้ยาทำงานได้ไม่เต็มที่
    • ไม่เกิดสัญญาณกระตุ้นทางเพศมากพอ ยาจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับสัญญาณกระตุ้นทางเพศ (Arousal) แต่หากผู้ป่วยมีปัจจัยทางอารมณ์ ความเครียด หรือความกังวลร่วมด้วย ยาก็อาจไม่เห็นผล
    • ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ หากฮอร์โมนเพศชายต่ำ จะส่งผลให้ความไวในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าลดลง ทำให้ผลของยาไม่เด่นชัด
    • ปัญหาเส้นประสาท เช่น ผู้ป่วยหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมากหรือมีการบาดเจ็บที่กระทบกระเทือนเส้นประสาท ยาอาจช่วยได้ไม่มากนัก

        จึงไม่น่าแปลกใจที่มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่แม้จะทานยามาตลอดแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร

        ED Shockwave ทำงานต่างจากยาอย่างไร?

        ED Shockwave ไม่ได้ทำงานที่ “อาการเฉพาะหน้า” เหมือนกับการใช้ยา แต่เน้นการทำงานที่ “โครงสร้างหลอดเลือด” โดยมีกลไกสำคัญดังนี้

        • กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Angiogenesis) เพื่อเพิ่มช่องทางลำเลียงเลือด
        • เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณเนื้อเยื่อองคชาตให้ดีขึ้น
        • ปรับการทำงานของผนังหลอดเลือดให้กลับมามีความยืดหยุ่นและตอบสนองดีขึ้น
        • เพิ่มความไวของเส้นประสาทรับความรู้สึก
        • ฟื้นฟูเนื้อเยื่อในระยะยาว

           นั่นหมายความว่า หากยาไม่ได้ผลเพราะปัญหาหลักคือเส้นเลือดเสื่อมสภาพ Shockwave อาจเป็นตัวช่วยที่เข้าไปแก้ไขในระดับโครงสร้างได้จริง

          หลักฐานทางการแพทย์ว่าอย่างไร? กลุ่ม “Non-responders” ดีขึ้นจริงไหม?

          จากงานวิจัยในกลุ่มผู้ป่วยที่ “ตอบสนองต่อยาไม่ดี” พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

          • คะแนนประเมินสมรรถภาพทางเพศ (IIEF Score) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากได้รับการรักษาด้วย Shockwave 6–12 ครั้ง
          • ในกลุ่มที่เดิมทานยาแล้วไม่เห็นผล หลังจากการทำ Shockwave ผู้ป่วยบางรายสามารถกลับมาตอบสนองต่อยาได้ดีขึ้น หรือลดปริมาณยาลงได้

          ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมักจะเกิดขึ้นในช่วง 1–3 เดือนหลังจากจบคอร์สการรักษา เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังสร้างหลอดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน

          กลุ่มที่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดีที่สุด

          • ผู้ที่มีภาวะ ED จากหลอดเลือด (Vasculogenic ED) ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
          • ผู้ที่มีโรคร่วมแต่สามารถควบคุมอาการได้ดี เช่น เบาหวานที่คุมระดับน้ำตาลได้
          • ผู้ที่ไม่อยากเพิ่มขนาดของยาเนื่องจากกังวลเรื่องผลข้างเคียง

          กลุ่มที่อาจได้ผลน้อยกว่า

          • ผู้ที่มีเส้นประสาทเสียหายจากการผ่าตัด
          • ผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำมาก
          • ผู้ที่มีสาเหตุทางจิตใจเป็นหลัก
          • อย่างไรก็ตาม แม้ในกลุ่มนี้ก็ยังสามารถใช้ Shockwave ร่วมกับวิธีอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้

          ข้อดีของ Shockwave ในกลุ่มที่ยาไม่ได้ผล

          • ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างหลอดเลือด ซึ่งต่างจากยาเพราะเป็นการช่วยซ่อมแซม ไม่ใช่แค่ลดอาการชั่วคราว
          • ไม่ต้องทานยาไปตลอดชีวิต ผู้ป่วยหลายคนสามารถลดการพึ่งพายาได้หลังจากทำครบคอร์ส
          • สามารถทำควบคู่กับการใช้ยาได้ งานวิจัยหลายฉบับพบว่าการใช้ Shockwave ร่วมกับยา PDE5i ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว
          • มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บมาก เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการการผ่าตัดหรือหัตถการที่รุนแรง

          แล้วกลุ่มไหน “เหมาะ” เป็นพิเศษ?

           กลุ่มที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ

          • กินยาแล้วอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่
          • ต้องเพิ่มขนาดยาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลเท่าเดิม
          • มีโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือความดันโลหิตสูง
          • สูบบุหรี่มานาน ซึ่งทำให้เส้นเลือดเสื่อมมากกว่าปกติ
          • มีภาวะเส้นเลือดแข็งตัว
          • ผู้ที่ต้องการลดการใช้ยา

          กลุ่มที่ควรได้รับการประเมินก่อน

          • ผู้ที่มีอาการชาหรือเส้นประสาทเสียหาย
          • ผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ
          • ผู้ที่มีปัญหาทางจิตใจเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ (ควรแก้ที่ต้นเหตุหรือปรับฮอร์โมนควบคู่กัน)

          ผลลัพธ์ใช้เวลานานแค่ไหน?

          • เริ่มรู้สึกดีขึ้น: อาจเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 4–6 ครั้งแรก
          • เห็นผลชัดที่สุด: ช่วง 1–3 เดือนหลังจากจบคอร์สการรักษา
          • ผลอยู่ได้นาน: หลายเดือนถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพ

          ข้อควรระวัง

          ไม่ควรทำโดยไม่ได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะต้องมีการคัดกรองว่าอาการ ED นั้นเกิดจากหลอดเลือดหรือไม่ มีโรคร่วมที่ต้องควบคุมไหม มีปัญหาเส้นประสาทหรือฮอร์โมนหรือไม่ รวมถึงประวัติการผ่าตัดในบริเวณอวัยวะเพศ และควรระวังในกรณีที่มีการติดเชื้อเฉพาะที่ มีแผลใหม่ มีภาวะเลือดออกง่าย หรือเป็นมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศ

          ED Shockwave เป็นตัวเลือกที่ “ใช่” สำหรับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยา อยากฟื้นฟูโครงสร้างหลอดเลือด หรืออยากลดการพึ่งพายาในระยะยาว วิธีนี้ไม่ได้แก้อาการเฉพาะหน้า แต่ทำงานเชิงลึกกับหลอดเลือดและการไหลเวียนเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะ ED ในผู้ชายจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่กินยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น

          ฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยแนวทางที่ปลอดภัยและเหมาะกับคุณ

          ที่ Zenista Clinic คลินิกกายภาพบำบัด เรามีบริการประเมินสาเหตุของภาวะ ED แบบองค์รวม และวางโปรแกรม Shockwave ให้เหมาะสมกับโครงสร้างหลอดเลือดของแต่ละบุคคล พร้อมติดตามผลตามเกณฑ์ทางคลินิกอย่างใกล้ชิด ท่านสามารถเข้ารับบริการได้ที่ Zenista Clinic ซึ่งเราพร้อมให้บริการทั้งที่คลินิกกายภาพบำบัดชลบุรี และคลินิกกายภาพบำบัดเพชรบุรี

          ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @zenista

          ผลลัพธ์ที่ดีไม่ได้มาจาก Shockwave เพียงอย่างเดียว แต่การประเมินสาเหตุที่ใช่ และวางแผนให้เหมาะกับร่างกายของแต่ละคน คือหัวใจสำคัญของการรักษา

          บริการแนะนำ

          กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

          กายภาพบำบัด

          คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

          รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

          รักษาข้อเข่าเสื่อม

          คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

          รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

          รักษาออฟฟิศซินโดรม

          รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง