กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ แก้อาการเจ็บเรื้อรังได้อย่างไร

กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ แก้อาการเจ็บเรื้อรังได้อย่างไร

หลายคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น ปวดคอบ่าไหล่ ปวดหลัง หรือปวดต้นขา มักจะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การไปนวด การรับประทานยาแก้ปวด หรือการทายาหม่อง แต่บ่อยครั้งก็พบว่าอาการดีขึ้นเพียงชั่วคราวแล้วก็กลับมาเป็นซ้ำอีก สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะการแก้ปัญหาเหล่านั้นยังไม่ตรงจุด และไม่ได้เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างของกล้ามเนื้ออย่างแท้จริง

หนึ่งในทางออกที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์และให้ผลดีในระยะยาว คือ กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นการรักษาโดยใช้ศาสตร์ทางกายภาพ เพื่อมุ่งเน้นการลดอาการปวด ฟื้นฟูสมรรถภาพ และปรับสมดุลของกล้ามเนื้อให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ

    กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อคืออะไร?

    กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ คือ การรักษาและฟื้นฟูทางกายภาพบำบัดที่มุ่งเน้นโดยตรงไปที่โครงสร้างของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ เช่น พังผืด เส้นเอ็น และข้อต่อ โดยใช้ทั้งการออกกำลังกายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เทคนิคการรักษาด้วยมือของนักกายภาพบำบัด และการใช้เครื่องมือทางกายภาพต่างๆ เช่น คลื่นอัลตราซาวด์ คลื่นไฟฟ้า หรือเลเซอร์ เพื่อแก้ไขความผิดปกติที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อและโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง

          ทำไมกล้ามเนื้อถึงเจ็บเรื้อรัง?

          อาการเจ็บกล้ามเนื้อเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นเพียงจากการใช้งานหนักในวันเดียว แต่เป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ ที่สะสมเป็นระยะเวลานาน เช่น

          •  การอยู่ในท่าทางซ้ำๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือการยืนในท่าที่ไม่เหมาะสม ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อบางมัดต้องทำงานหนักและเกร็งตัวค้างอยู่ตลอดเวลา
          • ภาวะกล้ามเนื้อไม่สมดุล (Muscle Imbalance) คือการที่กล้ามเนื้อบางมัดทำงานหนักและตึงตัวมากเกินไป ในขณะที่กล้ามเนื้ออีกมัดที่ทำงานตรงกันข้ามกลับอ่อนแรงลง
          • ความเครียดสะสม ซึ่งส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งโดยไม่รู้ตัว
          • การบาดเจ็บเก่าๆ ที่ไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดเป็นพังผืดหรือความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อตามมา
          • การขาดการออกกำลังกาย ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อโดยรวมอ่อนแรงและเกิดอาการตึงได้ง่าย

          หากปล่อยปัจจัยเหล่านี้ไว้นาน จะทำให้เกิดเป็น “จุดกดเจ็บเรื้อรัง” หรือ Trigger Point ซึ่งเป็นปมของใยกล้ามเนื้อที่หดเกร็งและไวต่อการกระตุ้น ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดซ้ำๆ และรบกวนคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก 

          ขั้นตอนการกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ

          1. การตรวจประเมินร่างกายอย่างละเอียด

          นักกายภาพบำบัดจะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เช่น การตรวจหากล้ามเนื้อที่ตึงตัวหรืออ่อนแรง การคลำหาจุดกดเจ็บ (Trigger Point) การวิเคราะห์ความไม่สมดุลของท่าทาง หรือรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

          2. การให้การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

          • การบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy) เป็นเทคนิคที่นักกายภาพบำบัดใช้มือในการรักษาโดยตรง เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว การยืดข้อต่อที่ติดขัด และการแก้ไขจุดกดเจ็บ
          • การออกกำลังกายเพื่อการรักษา (Therapeutic Exercise) เป็นการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อไม่สมดุล
          • การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด (Electrotherapy & Modalities) เช่น การใช้คลื่นไฟฟ้าความถี่ต่ำ (TENS/EMS) เพื่อช่วยลดปวดและคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ การใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound Therapy) เพื่อลดการอักเสบในกล้ามเนื้อ หรือการใช้ความร้อน/ความเย็นเพื่อบรรเทาอาการ

          3. การให้คำแนะนำและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

          ส่วนที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ผลการรักษายั่งยืน คือการให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง เช่น การปรับท่านั่งและสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ถูกหลักสรีรศาสตร์ การสอนท่ายืดเหยียดง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน และการวางแผนการออกกำลังกายเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

          กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อช่วยแก้อาการเจ็บเรื้อรังได้อย่างไร?

          • ช่วยลดอาการปวดอย่างตรงจุด
            ไม่ใช่เป็นเพียงการกดหรือคลายกล้ามเนื้อเฉพาะบริเวณที่ปวด แต่เป็นการวิเคราะห์เพื่อค้นหาสาเหตุและแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา เช่น การแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงหรือข้อต่อที่ติดขัดซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด
          • ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
            เมื่อกล้ามเนื้อมีความสมดุลและแข็งแรง จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการปวดซ้ำได้
          • ช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำในระยะยาว
            ด้วยการฝึกออกกำลังกายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และการให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนท่าทางในการใช้ชีวิตประจำวัน
          • ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
            เมื่ออาการปวดลดลง การไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น การเคลื่อนไหวจะคล่องตัวขึ้น และส่งผลให้คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน

          ตัวอย่างอาการเจ็บเรื้อรังที่กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อช่วยได้

          • อาการปวดคอบ่าไหล่เรื้อรังจากออฟฟิศซินโดรม
          • อาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง
          • อาการปวดสะโพกหรือปวดต้นขาจากการใช้งานซ้ำๆ
          • อาการปวดกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย
          • อาการปวดเรื้อรังหลังการเกิดอุบัติเหตุหรือการผ่าตัด

          กายภาพบำบัดกล้ามเนื้อไม่ได้เป็นเพียงการบรรเทาอาการชั่วคราว แต่เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างของร่างกายอย่างเป็นระบบ ช่วยลดอาการปวด แก้ไขภาวะความไม่สมดุล และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังจากการทำงาน การเล่นกีฬา หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน

          หากคุณมีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ไม่ว่าจะจากออฟฟิศซินโดรม การออกกำลังกาย หรืออุบัติเหตุ ที่ Zenista Clinic คลินิกกายภาพบำบัด ทีมนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมช่วยฟื้นฟูด้วยเทคนิคการรักษาเฉพาะบุคคลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ท่านสามารถเข้ารับบริการได้ที่ Zenista Clinic ซึ่งเราพร้อมให้บริการทั้งที่คลินิกกายภาพบำบัดชลบุรี และคลินิกกายภาพบำบัดเพชรบุรี

          ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือจองคิวได้ที่ Line ID: @zenista

          บริการแนะนำ

          กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

          กายภาพบำบัด

          คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

          รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

          รักษาข้อเข่าเสื่อม

          คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

          รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

          รักษาออฟฟิศซินโดรม

          รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง