ปวดหลังแบบไหนเป็นไต? สัญญาณที่ต้องระวัง ก่อนไตพังไม่รู้ตัว

ปวดหลังแบบไหนเป็นไต? สัญญาณที่ต้องระวัง ก่อนไตพังไม่รู้ตัว

อาการปวดหลังถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนเคยประสบ ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ท่านั่งที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่การออกกำลังกายผิดวิธี แต่รู้หรือไม่ว่า อาการปวดหลังบางลักษณะ อาจไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากกล้ามเนื้อหรือกระดูกสันหลังเท่านั้น แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคไตที่ซ่อนอยู่ และหากเราละเลยหรือไม่ใส่ใจ อาจนำไปสู่ภาวะไตวายหรือปัญหาที่รุนแรงได้โดยไม่รู้ตัว ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาเรียนรู้วิธีแยกแยะว่าอาการปวดหลังแบบไหนอาจเกี่ยวข้องกับไต และควรสังเกตอาการร่วมอื่นๆ อย่างไร พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการดูแลเบื้องต้นที่ปลอดภัย และบทบาทของนักกายภาพบำบัดเพื่อให้คุณมั่นใจมากขึ้น

ตำแหน่งของอาการปวดหลังที่ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวกับไต โดยทั่วไปแล้ว ไตของเราเป็นอวัยวะคู่ที่อยู่บริเวณด้านหลังของช่องท้องส่วนบน โดยจะขนาบอยู่สองข้างของกระดูกสันหลัง ในระดับที่อยู่ใต้ชายโครงเล็กน้อย อาการปวดที่เกี่ยวข้องกับไตจึงมักเกิดขึ้นบริเวณสีข้าง หรือหลังช่วงเอวด้านใดด้านหนึ่ง และอาจมีอาการปวดร้าวลามไปยังบริเวณท้องด้านหน้า หรือขาหนีบได้ อาการปวดหลังจากไตนั้นจะมีความแตกต่างจากอาการปวดหลังจากกล้ามเนื้อธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้

    ลักษณะอาการปวดจากไต

    • เป็นอาการปวดลึกๆ บริเวณหลังช่วงเอว หรือที่เรียกว่า Flank Pain ไม่ใช่การปวดตื้นๆ ที่ชั้นกล้ามเนื้อ
    • อาจเป็นอาการปวดเฉียบพลันที่รุนแรงมาก หรือเป็นอาการปวดตื้อๆ แบบเรื้อรังเป็นระยะๆ
    • ลักษณะการปวดมักเป็นแบบแผ่ร้าวไปยังบริเวณท้องน้อย สะโพก หรือขาหนีบได้
    • ในบางกรณีที่มีภาวะไตวายเรื้อรังหรือถุงน้ำในไตทั้งสองข้าง อาจมีอาการปวดทั้งสองข้างพร้อมกันได้

    ปวดหลังแบบไหนถึงเป็นสัญญาณอันตรายจากไต?

    อาการต่อไปนี้ควรถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจไม่ได้เป็นเพียงอาการปวดหลังทั่วไป แต่เป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพไตที่ต้องรีบไปพบแพทย์

    1.  ปวดหลังร่วมกับมีไข้สูงและหนาวสั่น อาการนี้มักเป็นสัญญาณคลาสสิกของการติดเชื้อที่ไต หรือกรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) โดยผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น และมีอาการปวดบริเวณเอวด้านใดด้านหนึ่งอย่างมาก ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างเร่งด่วน
    2. มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการปัสสาวะร่วมด้วย หากคุณมีอาการปวดหลังร่วมกับอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจการทำงานของไตทันที
      • ปัสสาวะแสบขัด หรือรู้สึกปวดเวลาปัสสาวะ
      • ปัสสาวะมีสีขุ่น มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีเลือดปน
      • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ โดยเฉพาะในตอนกลางคืน
      • ปัสสาวะเป็นฟองมาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีโปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ
    3. มีอาการบวมตามร่างกายร่วมด้วย ภาวะไตเสื่อมหรือการทำงานของไตที่บกพร่อง อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถขับของเหลวส่วนเกินออกไปได้ ส่งผลให้มีอาการบวมที่บริเวณต่างๆ เช่น หน้าบวม หนังตาบวม มือบวม หรือเท้าบวม
    4. มีอาการปวดหลังแบบรุนแรงเฉียบพลัน และปวดบิดเกร็งเป็นพักๆ อาการปวดในลักษณะนี้ อาจบ่งชี้ถึงภาวะนิ่วในไต ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ผู้ป่วยมักมีอาการปวดบิดเกร็งอย่างรุนแรงจนทนไม่ได้ และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

     

    ตารางเปรียบเทียบ ปวดหลังจากไต VS ปวดหลังจากกล้ามเนื้อ/กระดูก

    อาการปวดหลังจากไตปวดจากกล้ามเนื้อ/กระดูก
    ตำแหน่งที่ปวดมักปวดที่หลังช่วงเอว สีข้าง หรือใต้ชายโครง อาจปวดข้างเดียวหรือสองข้างมักปวดที่กลางหลังตามแนวกระดูกสันหลัง บั้นเอว หรือบริเวณคอ บ่า ไหล่
    ลักษณะอาการเป็นอาการปวดลึกๆ ปวดตื้อๆ หรือปวดบิดเกร็งเป็นพักๆ อาจมีการแผ่ร้าวไปที่อื่นเป็นอาการปวดตึง ปวดเมื่อย หรือปวดแปล๊บๆ ซึ่งมักจะชัดเจนเวลาเคลื่อนไหว
    ความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทางอาการปวดมักไม่ลดลงหรือเปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อนั่งหรือนอนเปลี่ยนท่าอาการมักจะดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างชัดเจนเมื่อมีการพักหรือเปลี่ยนท่าทาง
    อาการร่วมอื่นๆมักมีไข้ หนาวสั่น หรือมีความผิดปกติของการปัสสาวะร่วมด้วยโดยทั่วไปมักไม่มีอาการทางร่างกายอื่นๆ ร่วมด้วย ยกเว้นกรณีรุนแรงที่อาจมีอาการชาร้าวลงขา

    กายภาพบำบัดกับอาการปวดหลัง จำเป็นแค่ไหน?

    หากคุณได้ไปพบแพทย์และตรวจแล้วพบว่าอาการปวดหลังของคุณไม่ได้มีสาเหตุมาจากไต แต่มีสาเหตุมาจากระบบกล้ามเนื้อ กระดูก หรือเส้นประสาท การทำกายภาพบำบัดจะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยรักษาและฟื้นฟูอาการเหล่านี้ โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้

    • ปวดหลังจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน (เช่น ออฟฟิศซินโดรม)
    • ปวดหลังจากภาวะกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
    • ปวดหลังจากภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือเสื่อม
    • ปวดหลังจากภาวะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอ่อนแรง

    นักกายภาพบำบัดจะทำการตรวจประเมินหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และจัดโปรแกรมการฟื้นฟูที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงาน และการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง

    ต้องทำอย่างไร หากสงสัยว่าอาการปวดหลังอาจเกี่ยวข้องกับไต?

    • อย่าซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac เพราะยาในกลุ่มนี้อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตได้โดยตรง
    • ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินการทำงานของไต
    • แพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำอัลตราซาวด์ช่องท้อง หรือ CT Scan หากสงสัยว่าอาจมีนิ่วในไตหรือเนื้องอก
    • หากแพทย์ยืนยันว่าอาการปวดหลังไม่ได้เกี่ยวข้องกับไต คุณควรปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อทำการตรวจประเมินและรักษาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหลังต่อไป

    อาการปวดหลังจากไตมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากอาการปวดหลังจากกล้ามเนื้อหรือกระดูก การสังเกตลักษณะการปวดร่วมกับอาการอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ไข้ ความผิดปกติของการปัสสาวะ หรืออาการบวม สามารถช่วยให้คุณสามารถแยกแยะอาการเบื้องต้นและรีบไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที และหากผลการตรวจยืนยันว่าอาการปวดหลังของคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับไต การทำกายภาพบำบัดจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูหลังของคุณให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติอย่างปลอดภัยและให้ผลดีในระยะยาว

    หากคุณมีอาการปวดหลังบ่อยครั้ง และไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับไตหรือกล้ามเนื้อ อย่าปล่อยให้ปัญหาลุกลาม ควรเข้ารับการตรวจประเมินจากผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องได้ที่ Zenista Clinic คลินิกกายภาพบำบัด เรามีทีมนักกายภาพบำบัดผู้มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือในการประเมินที่ทันสมัย ที่จะช่วยวิเคราะห์และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ ท่านสามารถเข้ารับบริการได้ที่ Zenista Clinic ซึ่งเราพร้อมให้บริการทั้งที่คลินิกกายภาพบำบัดชลบุรี และคลินิกกายภาพบำบัดเพชรบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ Line ID: @zenista

    บริการแนะนำ

    กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

    กายภาพบำบัด

    คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

    รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

    รักษาข้อเข่าเสื่อม

    คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

    รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

    รักษาออฟฟิศซินโดรม

    รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง